
เรอัล มาดริด พบ มาร์กเซย วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 02:00 น. (ตามเวลาไทย) ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว, กรุงมาดริด ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/26 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 1
เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงเป็นทีมเต็งของรายการ ทั้งในเชิงคุณภาพตัวผู้เล่นและประสบการณ์บนเวทียุโรป แนวรุกที่ผสานความเร็ว-ความคม และการยืนตำแหน่งฉลาดในครึ่งช่อง (half-space) ทำให้พวกเขาอันตรายเป็นพิเศษเวลาเล่นในบ้าน ส่วนจุดที่ต้องระวังคือการป้องกันพื้นที่หลังฟูลแบ็กเมื่อเติมสูง และจังหวะป้องกันทรานซิชันเร็ว
โอลิมปิก มาร์กเซย ยุคใหม่ที่เน้นเกมรุกและการเซ็ตเกมจากแนวลึก (build-up) ต่อบอลสั้นภายใต้กุนซือสายคอนโทรลเกมอย่างโรแบร์โต เด แซร์บี (ตามทิศทางการทำทีมในฤดูกาล 2024/25) โครงสร้าง 4-2-3-1/3-2-4-1 ยืดหยุ่นและกล้าดันฟูลแบ็กสูงเพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงตัวเลขในแดนกลาง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงคือการเสียพื้นที่ด้านหลังวิงแบ็ก/ฟูลแบ็ก และการถูกดักเพรสสูงบริเวณโซน 1-2
ด้วยความเป็นเกมเปิดหัวรอบแบ่งกลุ่ม แรงจูงใจสูงทั้งคู่ มาดริดต้องการ 3 คะแนนเพื่อวางหมากนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่นัดแรก ขณะที่มาร์กเซยต้องการแต้มจากนัดเยือนยากที่สุดของกลุ่มเพื่อล็อกความมั่นใจในการลุ้นเข้ารอบ
แนวโน้ม: เรอัล มาดริด เหนือกว่าอย่างชัดเจนจากสถิติเดิม โดยเฉพาะเมื่อเล่นที่เบร์นาเบวซึ่งพวกเขามักคุมจังหวะและสร้างโอกาสได้มากกว่า
ภาพรวมจากผลการแข่งขันและข้อมูลสะสมบนเวทียุโรปจนถึงปลายฤดูกาล 2024/25 (อ้างอิงแนวโน้มจาก WhoScored/SofaScore): เรอัล มาดริดเล่นเกมเหย้าใน UCL ได้แข็งแกร่งมาก อัตราการครองบอลและคุณภาพโอกาส (xG) ในบ้านเฉลี่ยสูงกว่านอกบ้านอย่างมีนัยสำคัญ เกมรุกอันตรายจากการโจมตีครึ่งช่องซ้าย (Vinícius Jr./ตัวรุกเท้าขวาที่เลี้ยงตัด) และการสอดพื้นที่ว่างของจู๊ด เบลลิงแฮม ขณะที่เกมรับช่วงทรานซิชันดีขึ้นเมื่อมีมิดฟิลด์เชิงรับประเภท ball-winner อย่างโอเรเลียง ชูอาเมนีช่วยปิดช่องตรงกลาง
ภาพรวมจากฤดูกาลล่าสุดก่อนหน้า (อิงโครงสร้างทีมของ OM ในยุคเด แซร์บีตามฐานข้อมูลสาธารณะ): มาร์กเซยเล่นเกมเยือนได้ดีขึ้นเมื่อสามารถเซ็ตเพรสแรกสำเร็จและตัดคู่แข่งให้ออกบอลไปด้านนอก จากนั้นดักโต้กลับด้วยความเร็วของตัวริมเส้นอย่างอิสไมลา ซาร์ และการเชื่อมเกมระหว่างไลน์ของอามีน อาริต จุดต้องปรับคือคุณภาพจังหวะสุดท้ายและความนิ่งในพื้นที่สุดท้าย รวมถึงการป้องกันลูกตั้งเตะและพื้นที่ด้านหลังจอนาธาน โกลส เมื่อเติมสูง
- รูปแบบเจ้าบ้าน: มาดริดคาดว่าจะยืน 4-3-1-2/4-3-3 แบบยืดหยุ่น เกมรุกพึ่งพาการโอเวอร์โหลดฝั่งซ้าย (Vini + อินเวิร์ตฟูลแบ็ก/มิดฟิลด์) กับการวิ่งทำลายลึกของกองหน้าความเร็วสูง ขณะเบลลิงแฮมยืนเป็นตัวเชื่อมระหว่างไลน์ คีย์อยู่ที่การหมุนเปลี่ยนแกนไว (switch of play) ไปสู่ฝั่งขวาให้เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้/คาร์บาฆาลได้ครอสในจังหวะ 2
- รูปแบบทีมเยือน: มาร์กเซยของเด แซร์บีจะ build-up 2-3-5 ดันโกลสสูงเป็นวิงแบ็ก, ปีกเปิดพื้นที่ให้หมายเลข 10 รับระหว่างไลน์ จุดได้เปรียบคือการล่อเพรสและเจาะช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์-ฟูลแบ็กของมาดริด แต่ต้องออกบอลจังหวะแรกแม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดแล้วโดนสวนเร็ว
- จุดตัดสิน: 1) การเพรสสูงของมาดริดต่อ first phase ของ OM 2) การป้องกันครอสเสาไกลของ OM เมื่อถูกสวิทช์ฝั่ง 3) ลูกตั้งเตะ—มาดริดได้เปรียบจากรูดิเกอร์/มิลิเตาและการวางบอลคุณภาพ 4) ทรานซิชันของทั้งสองฝั่ง หาก OM เสียบอลกลางทางระหว่าง build-up โดนลงโทษได้ทันที
หมายเหตุ: ไลน์อัพคาดการณ์ยึดตามโครงสร้างและการใช้งานนักเตะที่สอดคล้องกับข้อมูลเชิงแท็คติกจาก WhoScored/SofaScore ในฤดูกาลล่าสุดก่อนหน้า อัปเดตความพร้อมจริงใกล้วันแข่งจากแหล่งข่าวดังกล่าวและเว็บไซต์สโมสร
- ตัวแปรเกมรุก: การจับคู่ Vini–เอ็มบัปเป้ ในครึ่งช่องซ้ายและพื้นที่ด้านหลังโกลสคือหมากที่ OM ต้องแก้ ถ้าตัดบอลแรกไม่ดีจะถูกลากให้ไลน์แตกทันที
- แดนกลาง: ชูอาเมนีเป็นสมดุลเกมรับของมาดริด หากคุมพื้นที่หน้ากรอบได้ OM จะต้องพึ่งระยะยิงไกล/จังหวะสองมากขึ้น
- ความฟิตและโรเตชัน: เกมเปิดหัว UCL มักใช้ 11 ที่มั่นคงสุดของทั้งสองทีม แต่รายละเอียดคิวเตะลีกก่อนหน้าอาจทำให้มีการโรเตชันเล็กน้อย โดยเฉพาะฝั่ง OM
- แรงกดดันสนาม: เบร์นาเบวและเทคโนโลยีพิเศษของพื้นสนามช่วยให้คุณภาพการต่อบอลเร็วของเจ้าถิ่นลื่นไหล แรงกดดันจากแฟนบอลทำให้ผู้มาเยือนเสียสมาธิง่ายในช่วง 15 นาทีแรกและก่อน/หลังพักครึ่ง
- ลูกตั้งเตะ: มาดริดได้เปรียบอย่างชัดเจนจากสรีระเซ็นเตอร์และคุณภาพการวางบอล ขณะที่ OM ต้องระวังฟาวล์ไม่จำเป็นหน้าเขตโทษ
เรอัล มาดริด พบ มาร์กเซย เรอัล มาดริด 2-0 โอลิมปิก มาร์กเซย เจ้าถิ่นมีคุณภาพเกมรุกและประสบการณ์บนเวทียุโรปเหนือกว่า โครงสร้างเพรสและทรานซิชันไวมีแนวโน้มบีบให้ OM ผิดพลาดในเฟส build-up อย่างน้อย 1-2 หน ขณะเดียวกันเกมรับบ้านมาดริดแม้เปิดพื้นที่หลังฟูลแบ็กบ้าง แต่เซ็นเตอร์อย่างรือดิเกอร์/มิลิเตาคุมกรอบเขตโทษได้ดีพอจะป้องกันไม่ให้เสียประตูง่าย
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อแอดมินได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน LINE@ : @Won789 หรือกด >> สมัครสมาชิกได้ << ทันที
