
เรอัล มาดริด พบ ยูเวนตุส ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2025/26 รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2568 เรอัล มาดริด เปิดสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ ยูเวนตุส เวลาแข่งขันตามยุโรป 21:00 น. CEST (ประมาณ 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทยของเช้าวันถัดไป) โดยเป็นเกมชี้วัดจ่าฝูงกลุ่มที่มีเดิมพันสูงทั้งในเชิงอันดับและความมั่นใจ
เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงนิยามคำว่า “ทีมทัวร์นาเมนต์” ได้อย่างชัดเจน จุดแข็งคือโครงสร้างเกมรับที่รัดกุม ผสมความเฉียบคมในการเปลี่ยนผ่าน เกมรุกมีตัวตัดสินมากมายทั้ง คิลิยัน เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และจู๊ด เบลลิงแฮม ขณะที่แดนกลางมีกำลังขับเคลื่อนชั้นยอดอย่าง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า
ยูเวนตุส ในยุคของ ติอาโก้ ม็อตต้า ปรับดีเอ็นเอจากบอลระมัดระวังสู่โครงสร้างเชิงรุกสมัยใหม่มากขึ้น (4-2-3-1/4-3-3) มีการเพรสซิ่ง-รีเพรสซิ่งที่เป็นระบบและวางตำแหน่งซ้อนกันดี แดนกลางอย่าง ดักลาส ลุยซ์ และ มานูเอล โลคาเตลลี่ ช่วยให้ทีมครองบอลขึ้นเกมเป็นชั้นเป็นเชิง ส่วนแนวรุก ดุซาน วลาโฮวิช คือหมายเลข 9 ที่ปิดบัญชีในกรอบ ผลงานนอกบ้านในเวทียุโรปยังต้องพิสูจน์ แต่ “เบียงโคเนรี่” มีวินัยและระเบียบเกมรับที่ไว้ใจได้
ความสำคัญของเกมนี้คือการชิงพื้นที่หัวตารางกลุ่ม การเก็บคะแนนในบ้าน/นอกบ้านจะสะเทือนต่อเส้นทางเข้ารอบโดยตรง แรงจูงใจของมาดริดคือย้ำอำนาจในเบร์นาเบว ส่วนยูเวนตุสต้องการยืนยันว่าฟุตบอลของม็อตต้าแข่งขันได้ในระดับทวีป
หมายเหตุด้านข้อมูล: ผู้เขียนไม่มีสิทธิ์เข้าถึงสถิติแบบเรียลไทม์หลังเดือนตุลาคม 2024 ในขณะจัดทำบทความนี้ จึงไม่สามารถยืนยันผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของเรอัล มาดริด ก่อนเกมวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ได้อย่างครบถ้วน ขอแนะนำให้ตรวจสอบผลล่าสุด, ประตูได้-เสีย และจำนวนคลีนชีตจากแหล่งข้อมูลสดอย่าง SofaScore/WhoScored/Transfermarkt ก่อนเผยแพร่
เชิงภาพรวม มาดริดยุคอันเชล็อตติเด่นที่ระเบียบเกมรับกับทรานซิชันรุกเร็ว ประสิทธิภาพการจบสกอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ย โอกาสทำประตูคุณภาพ (xG) ต่อเกมมักสูงจากการทะลุช่องและการสวนกลับ โกลอย่าง ติโบต์ กูร์กตัวส์ เพิ่มเสถียรภาพเมื่อเผชิญจังหวะบีบคั้น ส่วนบอลเซ็ตพีซได้เปรียบจากลูกกลางอากาศของ รือดิเกอร์ และมิลิเตา
หมายเหตุด้านข้อมูล: เช่นเดียวกัน ผู้เขียนไม่สามารถยืนยันผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของยูเวนตุสถึงวันที่ระบุได้โดยตรง กรุณาอัปเดตตัวเลขจริงจากแหล่งอ้างอิงสดก่อนเผยแพร่
ในเชิงเทรนด์ ทีมของม็อตต้าเน้นครองเกมด้วยโครงสร้าง 2-3-5 ในเฟสขึ้นเกม การเพรสซิ่งสอดประสานกันดี และมีความยืดหยุ่นในการหมุนตำแหน่งของฟูลแบ็ก-วิงเกอร์ เกมรับในกรอบอันตรายพึ่งพาความแข็งแกร่งของ เกลสัน เบรเมอร์ และการอ่านจังหวะของ ดานิโล การทำประตูพึ่งพาคุณภาพการเข้าพื้นที่สุดท้ายของวลาโฮวิช และครีเอทีฟโซนฮาล์ฟสเปซจาก เคนาน ยิลดิซ/มาทีอัส ซูเล่
- โครงสร้างของเรอัล มาดริด: 4-3-1-2/4-3-3 ยืดหยุ่น เบลลิงแฮมเล่นเป็นตัวเชื่อม “เบทวีนเดอะไลน์” คอยดึงเซ็นเตอร์/โฮลดิ้งมิดของคู่แข่งให้หลุดตำแหน่ง เพื่อเปิดช่องให้ เอ็มบัปเป้ และวินิซิอุสวิ่งตัดแนวลึก ช่องครึ่งพื้นที่ (half-spaces) ขวาจากบัลเบร์เด้คือแหล่งกำเนิดการทะลุทะลวงสำคัญ
- โครงสร้างของยูเวนตุส: ม็อตต้าใช้หลัก positional play สร้างสามเหลี่ยม/สี่เหลี่ยมในแดนกลาง ดักลาส ลุยซ์ ช่วยรีไซเคิลบอลและวางยาวเปลี่ยนแกน ขณะโลคาเตลลี่คุมเทมโป เมื่อขึ้นเกมริมเส้น ฟูลแบ็กอย่าง คัมเบียโซ/ดานิโล จะโอเวอร์แลป/อินเวิร์ตตามจังหวะ เพื่อเปิดคอมบินชันเพลย์กับตัวกว้าง
- จุดตัดสิน: 1) พื้นที่หลังฟูลแบ็กยูเวนตุส หากคุมระยะระหว่างไลน์ไม่ดี เอ็มบัปเป้-วินิซิอุสจะลงโทษได้ทันที 2) การเพรสซิ่งเฟสสองของยูเวนตุสต่อบอลรีเทิร์นจากมาดริด หากบดแดนกลางจนบังคับให้เล่นยาวได้ โอกาสสวนกลับเร็วของทีมเยือนจะเพิ่มขึ้น 3) ลูกตั้งเตะ มาดริดได้เปรียบในลูกกลางอากาศ แต่ยูเวนตุสก็มีอาวุธจากเบรเมอร์/ดานิโลไม่แพ้กัน 4) การป้องกันทรานซิชันของมาดริด เมื่อแบ็กดันสูง หากคอนโทรลรีสตั้ตไม่ดี ยิลดิซ/ซูเล่สามารถโจมตีพื้นที่ว่างได้
ข้อมูลไลน์อัพเป็นการคาดการณ์เชิงแท็คติก โปรดตรวจสอบ 11 ตัวจริงล่าสุดจาก WhoScored หรือ SofaScore ใกล้เวลาแข่งขันเพื่อความถูกต้อง
- ตัวแปรคนสำคัญ: เบลลิงแฮมในบทบาทเพลย์เมคเกอร์เงา กับการปะทะเชิงวินัยของโลคาเตลลี่/ดักลาส ลุยซ์ ใครคุมพื้นที่ “โซน 14” ได้จะเป็นฝ่ายกำหนดเทมโปเกม
- ความฟิต/อาการบาดเจ็บ: ขอให้เช็กอัปเดตจากสโมสรและสื่อสถิติแบบเรียลไทม์ เพราะสภาพร่างกายของคีย์แมนอย่าง กูร์กตัวส์, มิลิเตา หรือความพร้อมแนวรุกยูเวนตุส อาจเปลี่ยนพลวัตเกมอย่างมีนัยสำคัญ
- สภาพแวดล้อม: แรงกดดันจากแฟนบอลในเบร์นาเบวและคุณภาพพื้นสนามที่เอื้อต่อการต่อบอลเร็วของมาดริด ส่งผลต่อความมั่นใจและความกล้าจ่ายบอลเสี่ยงของทีมเยือน
- เกมรับกรอบเขตโทษ: ความนิ่งของเบรเมอร์-ดานิโลจะถูกทดสอบหนักกับการวิ่งทำทางตัดไลน์ของเอ็มบัปเป้/วินิซิอุส และการสอดเติมของบัลเบร์เด้ หากยูเวนตุสปิดครอสและคัตแบ็กได้ดี โอกาสลุ้นแต้มจะสูงขึ้น
เรอัล มาดริด 2-1 ยูเวนตุส
เหตุผล: มาดริดได้เปรียบจากคุณภาพเกมรุกเฉียบคมและบรรยากาศในบ้าน การเคลื่อนที่ของเบลลิงแฮม-เอ็มบัปเป้-วินิซิอุส สามารถเจาะระยะห่างระหว่างแบ็กกับเซ็นเตอร์ของยูเวนตุส ขณะที่ทีมเยือนมีวินัยพอจะสร้างจังหวะโต้กลับและเซ็ตพีซกดดันคืน แต่ความแตกต่างอยู่ที่ความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อแอดมินได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน LINE@ : @Won789 หรือกด >> สมัครสมาชิกได้ << ทันที
