เปแอชเช พบ เรอัล มาดริด การแข่งขันฟุตบอล FIFA Club World Cup รอบรองชนะเลิศ ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอชเช) จากฝรั่งเศส พบกับ เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก จากสเปน จะจัดขึ้นที่สนาม King Abdullah Sports City เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เวลา 02:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการเข้าชิงชนะเลิศและสร้างประวัติศาสตร์ในรายการสโมสรโลก

สถานการณ์ของทั้งสองทีม

เปแอชเช ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มร้อนแรง ไม่แพ้ใครติดต่อกันมาแล้ว 12 นัดทุกรายการ โดยการคว้าแชมป์ลีกเอิงฤดูกาล 2567–68 ยืนยันถึงความแข็งแกร่งในประเทศ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่เคยคว้าแชมป์ Club World Cup มาก่อน ทำให้แรงจูงใจสูงมากในเกมนี้

ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ของกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ พกดีกรีแชมป์ยุโรปฤดูกาลล่าสุดมาเต็มตัว และฟอร์มล่าสุดยังไม่แพ้ใครใน 10 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ โดยเฉพาะการเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรอบชิงยูซีแอล ส่งผลให้ขวัญและกำลังใจของทีมอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ทั้งยังต้องการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 6

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด (Head to Head)

ทั้งสองทีมเคยเจอกันในรายการยุโรปอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดย 5 นัดหลังสุดมีรายละเอียดดังนี้:

• มีนาคม 2567: เรอัล มาดริด 2-1 เปแอชเช (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก)
• กุมภาพันธ์ 2567: เปแอชเช 1-1 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก)
• มีนาคม 2565: เรอัล มาดริด 3-1 เปแอชเช
• กุมภาพันธ์ 2565: เปแอชเช 1-0 เรอัล มาดริด
• พฤศจิกายน 2562: เรอัล มาดริด 2-2 เปแอชเช

แนวโน้มคือเกมจะออกมาสูสี ใน 5 นัดหลังสุด เปแอชเชชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2 โดยเรอัล มาดริดดูมีความเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อลงเล่นในสนามเป็นกลาง

ฟอร์ม 5 นัดหลังของทีมเจ้าบ้าน

ฟอร์มล่าสุดของเปแอชเชในทุกรายการ:

• 6 กรกฎาคม 2568: เปแอชเช 3-0 อัล-อาห์ลี (FIFA Club World Cup)
• 28 มิถุนายน 2568: เปแอชเช 2-2 ลียง (เฟรนช์ คัพ ชิงชนะเลิศ, ชนะจุดโทษ)
• 21 มิถุนายน 2568: เปแอชเช 4-1 มาร์กเซย
• 14 มิถุนายน 2568: เปแอชเช 3-2 ล็องส์
• 7 มิถุนายน 2568: เปแอชเช 2-0 ลอริยองต์

เห็นได้ชัดว่าแนวรุกของทีมยังคงเป็นจุดแข็ง โดยยิงรวม 14 ประตูใน 5 นัดหลัง เสียเพียง 5 ประตูเท่านั้น

ฟอร์ม 5 นัดหลังของทีมเยือน

ฟอร์มล่าสุดของเรอัล มาดริดในทุกรายการ:

• 6 กรกฎาคม 2568: เรอัล มาดริด 4-1 ฟลูมิเนนเซ่ (FIFA Club World Cup)
• 30 มิถุนายน 2568: เรอัล มาดริด 2-1 แอตเลติโก มาดริด (ลาลีกา นัดสุดท้าย)
• 23 มิถุนายน 2568: เรอัล มาดริด 0-0 บาเลนเซีย
• 17 มิถุนายน 2568: เรอัล มาดริด 3-2 แมนฯ ซิตี้ (ยูซีแอล นัดชิงชนะเลิศ)
• 10 มิถุนายน 2568: เรอัล มาดริด 2-0 เรอัล เบติส

เรอัล มาดริดเน้นเกมรุกที่มีความแน่นอน ขณะเดียวกันแนวรับก็เริ่มมีความรัดกุมขึ้นในช่วงนัดหลัง การจัดการเกมรับกลางสนามเป็นจุดแข็งหลักในเวลานี้

แท็คติกและจุดเปลี่ยนของเกม

หลุยส์ เอ็นริเก้ น่าจะเลือกใช้แผน 4-3-3 ตามถนัด เน้นการต่อบอลสั้นจากแดนหลัง ใช้ความคล่องตัวของแนวรุกอย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ และอุสมาน เดมเบเล่ ในการเจาะแนวรับที่ช้าของมาดริด แต่น่าจับตาแผงมิดฟิลด์ซึ่งอาจเสียเปรียบด้านประสบการณ์

คาร์โล อันเชล็อตติ จะใช้แผน 4-2-3-1 เน้นความแน่นในแดนกลางและจังหวะโต้กลับจากวินิซิอุส จูเนียร์ และโรดรีโก้ พร้อมด้วยการควบคุมจังหวะเกมจากจู๊ด เบลลิงแฮม หากเปแอชเชเปิดพื้นที่มากเกินไป แนวรุกของราชันชุดขาวพร้อมลงโทษทันที

จุดเปลี่ยนของเกมขึ้นอยู่กับความแม่นยำในพื้นที่สุดท้ายของทั้งสองฝั่ง และใครสามารถควบคุมจังหวะในแดนกลางได้ดีกว่า จะมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

ทีมเจ้าบ้าน

• ผู้รักษาประตู: จานลุยจิ ดอนนารุมม่า
• กองหลัง: อาชราฟ ฮาคิมี, มิลาน สกรีเนียร์, ลูคัส แอร์กน็องเดซ, นูโน่ เมนเดส
• กองกลาง: วิตินญ่า, มานูเอล อูการ์เต้, ฟาเบียน รุยซ์
• กองหน้า: คีเลียน เอ็มบัปเป้, อุสมาน เดมเบเล่, กอนซาโล รามอส

ทีมเยือน

• ผู้รักษาประตู: ติโบต์ กูร์กตัวส์
• กองหลัง: ดานี่ การ์บาฆาล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด อลาบา, เฟอร์แลนด์ เมนดี้
• กองกลาง: โทนี่ โครส, เออร์เลียง ชูอาเมนี่
• กลางรุก: โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์
• กองหน้า: โฆเซลู

วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญ

เกมนี้ถือว่าเปแอชเชต้องพิสูจน์ตัวอีกครั้งในเวทีโลก โดยหวังพึ่งความเร็วของเอ็มบัปเป้และการจ่ายบอลของวิตินญ่า แต่การขาดเนย์มาร์ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บส่งผลต่อมิติการบุก ในขณะที่เรอัล มาดริดได้เปรียบเรื่องประสบการณ์และความลงตัวของทีม รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนอาจเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งนักเตะมาดริดซึ่งคุ้นเคยกับการเล่นในภูมิอากาศใกล้เคียงแบบนี้อาจได้เปรียบเล็กน้อย

ฟันธงผลการแข่งขัน

เปแอชเช พบ เรอัล มาดริด จากฟอร์มล่าสุดและองค์ประกอบโดยรวม เรอัล มาดริดดูมีความครบเครื่องกว่าทั้งในแง่ประสบการณ์เกมใหญ่, ความแน่นอนในแดนกลาง และคุณภาพจังหวะสุดท้าย เปแอชเชอาจมีโอกาสในการเจาะแนวรับมาดริด แต่ต้องอาศัยความเฉียบคมอย่างมาก

เรอัล มาดริดน่าจะเป็นฝ่ายกำชัยในเกมนี้ด้วยจังหวะสวนกลับและความนิ่งที่มากกว่า

ผลการแข่งขันที่คาด: เปแอชเช 1-2 เรอัล มาดริด

หากสนใจ เดิมพันแทงบอลออนไลน์ เรา WON789 รับรองความปลอดภัย100% สนใจ สมัครสมาชิก คลิก สอบถามแอดมินได้ตลอด 24 ชม. ที่ไลน์ @WON789