
เรอัล มาดริด พบ บาร์เซโลน่า ลาลีกา สเปน (Liga BBVA) คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ เรอัล มาดริด พบ บาร์เซโลน่า วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว กรุงมาดริด เวลาแข่งขันโปรดตรวจสอบประกาศล่าสุดจาก LaLiga และผู้ถ่ายทอดสดในประเทศไทย
นี่คือเอล กลาซิโก้ที่มักสะเทือนอันดับหัวตารางช่วงไตรมาสแรกของฤดูกาล เรอัล มาดริดในยุคที่เพิ่มมิติแนวรุกด้วยคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ผสานวินิซิอุส จูเนียร์ และจู๊ด เบลลิงแฮม ภายใต้ระบบยืดหยุ่นของคาร์โล อันเชล็อตติ (สลับใช้ 4-3-1-2/4-3-3/ไดมอนด์) จุดขายคือทรานซิชันเร็ว การโจมตีพื้นที่ครึ่งช่องซ้าย และการวิ่งสอดของเบลลิงแฮมที่ยากต่อการตามประกบ
ฝั่งบาร์เซโลน่า ภายใต้แนวคิดเกมเพรสซิ่งสมัยใหม่และการยืนโครง 4-2-3-1/4-3-3 ที่เน้นครองบอลในครึ่งสนามคู่แข่ง ใช้ความเร็วและความกล้าเล่นของลามีน ยามาล ประสานโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับตัวปั้นเกมอย่างเพดรี/อิลคาย กุนโดกัน จุดแข็งคือการโจมตีระหว่างไลน์และการเปลี่ยนแกนเร็วสู่ริมเส้น แต่จุดที่ต้องระวังคือทรานซิชันรับและการตั้งโซนป้องกันลูกครอส-ลูกสอง
แรงจูงใจทั้งสองฝ่ายสูงสุดตามธรรมชาติของกลาซิโก้ โดยเฉพาะเรอัล มาดริดที่ได้เปรียบเสียงเชียร์ในบ้าน ขณะที่บาร์เซโลน่ามองหาแต้มสำคัญเพื่อยึดเกาะพื้นที่ลุ้นแชมป์ในระยะยาว
ภาพรวมเชิงแท็คติกของเรอัล มาดริดในช่วงหลัง (ตามเทรนด์ตั้งแต่ฤดูกาล 2023/24 ต่อเนื่อง 2024/25) เน้นความแน่นอนเกมรับชั้นในจากคู่เซ็นเตอร์อย่างอันโตนิโอ รือดิเกอร์ ประสานแดนกลางพละกำลังสูง (ชาเมนี/วาลเวร์เด้/คามาวิงก้า) ทำให้ทีมชนะเกมแรงปะทะและเก็บคลีนชีตได้สม่ำเสมอ เมื่อบวกการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายของวินิซิอุส-เอ็มบัปเป้ และการสอดเติมของเบลลิงแฮม โอกาสยิงคุณภาพสูง (xG/ช็อต) จึงเกิดบ่อย โดยเฉพาะการเจาะครึ่งช่องซ้ายและจังหวะสวนกลับหลังแย่งบอลกลางสนาม
หมายเหตุ: ผลการแข่งขันจริง 5 นัดล่าสุด คลีนชีต และประตูได้เสียล่าสุด โปรดอัปเดตจาก SofaScore/WhoScored ก่อนเผยแพร่
บาร์เซโลน่าพัฒนาความยืดหยุ่นเกมรุกอย่างเห็นได้ชัดในยุคหลัง โดยพึ่งพาการสร้างความได้เปรียบเชิงตัวเลขผ่านการยืนตำแหน่งของกองหลังตัวเติม (ฟูลแบ็ก/อินเวอร์ต) และการหมุนตำแหน่งของกองกลางเพื่อเปิดไลน์จ่ายเข้ากรอบเขตโทษ จุดเด่นคือเกมด้านข้างของลามีน ยามาล และการตัดเข้าในของราฟินญ่า/ตัวรุกริมเส้น อีกทั้งเซ็ตเพลย์จากกุนโดกันยังเป็นอาวุธสำคัญ
อย่างไรก็ดี จุดที่ต้องระวังคือทรานซิชันรับเมื่อเสียจังหวะจ่ายบอล และความลึกแนวรับเมื่อต้องดวลความเร็วในพื้นที่กว้าง หากตั้งไลน์สูงเกินไปอาจถูกทะลุช่องด้วยการวางยาว/บอลคิลเลอร์พาสจากเบลลิงแฮม
หมายเหตุ: ผลการแข่งขันจริง 5 นัดล่าสุด คลีนชีต และประตูได้เสียล่าสุด โปรดอัปเดตจาก SofaScore/WhoScored ก่อนเผยแพร่
- โครงสร้างของเรอัล มาดริด: 4-3-1-2/4-3-3 ปรับรูปเป็น 2-3-5 ในเกมรุก โดยแบ็กขวา (ดาเนี่ยล การ์บาฆาล) สูงกว่าฝั่งซ้ายเพื่อเปิดพื้นที่โอเวอร์แลป-อันเดอร์แลปให้วินิซิอุส ขณะที่เบลลิงแฮมยืนเชื่อมครึ่งช่องและวิ่งซ้อนหลังฟูลแบ็กคู่แข่งเป็นประจำ เอ็มบัปเป้เป็นทั้งตัวจบและตัวล่อแนวรับเพื่อเปิดเลนยิงให้เพื่อน
- การป้องกันทางซ้ายของบาร์ซ่า: บัลเด้ (หากออกสตาร์ต) ต้องรับมือการโอเวอร์โหลดด้านข้างของวินิซิอุส+เบลลิงแฮม จุดเปลี่ยนคือการช่วยซ้อนของเซ็นเตอร์ขวา (อเราโฆ/กุนเด้) หากหลุด 1v1 บ่อย เกมอาจไหลเข้าทางเจ้าบ้าน
- แดนกลางคือสมรภูมิหลัก: บาร์ซ่าต้องคุมจังหวะด้วยกุนโดกัน/เพดรี เพื่อลดเกมเปลี่ยนแดนของมาดริด หากปล่อยให้วาลเวร์เด้/คามาวิงก้า ขโมยบอลแล้วแทงทะลุช่องเร็ว ความเสียหายจะเกิดทันที
- การประกบตัวเฉพาะกิจ: ในกลาซิโก้ก่อนๆ บาร์ซ่าเคยใช้โรนัลด์ อเราโฆ ยืนแบ็กขวาหรือดันสูงเพื่อจำกัดวินิซิอุส หากเลือกสูตรนี้อีกครั้ง จะลดความอิสระฝั่งซ้ายเจ้าบ้าน แต่ต้องแลกกับพื้นที่ด้านหลังแบ็กและการสลับประกบในกรอบเขตโทษ
- ลูกตั้งเตะ: มาดริดมีคุณภาพครอสและลูกโหม่งจากรูดิเกอร์/เบลลิงแฮม ขณะที่บาร์ซ่ามีการออกแบบคอมบิเนชันสั้นจากกุนโดกัน หากฝ่ายใดชิงเล่นงานจากเซ็ตเพลย์ได้ก่อน จะเปลี่ยนโครงเกมอย่างมีนัยสำคัญ
อิงจากรูปแบบการใช้งานต่อเนื่องที่สะท้อนในฐานข้อมูลของ WhoScored และ SofaScore จนถึงฤดูกาล 2024/25 ช่วงต้น ทั้งนี้โปรดตรวจสอบอัปเดตอาการบาดเจ็บ/โทษแบนจากแหล่งอ้างอิงก่อนแข่ง
- ตัวแปรเกมรุก: การจับคู่ เอ็มบัปเป้-วินิซิอุส สร้างปัญหาในพื้นที่กว้างและแนวลึก ขณะที่เบลลิงแฮมเป็นตัวสอดซ้อนสำคัญในเขตโทษ
- สมดุลแดนกลาง: ถ้าเดอ ยอง/เพดรี คุมจังหวะบอลแรกได้ บาร์ซ่าจะพาบอลขึ้นแดนบนได้ต่อเนื่อง ลดโอกาสโดนสวนกลับ หากถูกกดเพรสจนเสียบอลลึก เกมจะไหลไปเข้าทางมาดริด
- วินัยเกมรับฝั่งบาร์ซ่า: การตัดสินใจของแนวรับขวา (อเราโฆ/กุนเด้) ต่อการดวล 1v1 กับวินิซิอุส จะกำหนดเพดานความเสี่ยงทั้งเกม
- ผู้รักษาประตู: กูร์กตัวส์กับแทร์ ชเตเก้น ต่างมีช็อตเซฟเปลี่ยนเกมได้ ใครเซฟจังหวะสำคัญได้ก่อนอาจเป็นตัวชี้ผลลัพธ์
- บรรยากาศในเบร์นาเบว: แรงกดดันและโมเมนตัมจากแฟนเจ้าถิ่นมักเพิ่มความดุดันให้การเพรสซิ่ง/ทรานซิชันของมาดริด โดยเฉพาะช่วงต้นครึ่งแรกและต้นครึ่งหลัง
เรอัล มาดริด 2-1 บาร์เซโลน่า
เจ้าบ้านได้เปรียบจากความหลากหลายในการโจมตีฝั่งซ้ายและคุณภาพการจบสกอร์ของแนวรุกสามประสาน ผสานเกมรุกไดนามิกของเบลลิงแฮม อีกทั้งผลงานเฮดทูเฮดในเกมทางการฤดูกาล 2023/24 ที่มาดริดชนะครบ ชี้ว่าพวกเขารู้วิธีเปิดจุดอ่อนทรานซิชันรับของบาร์ซ่า อย่างไรก็ดี บาร์ซ่ายังมีทีเด็ดจากการต่อบอลทะลุครึ่งช่องและลูกตั้งเตะที่พร้อมลงโทษความผิดพลาดเล็กๆ ได้ตลอด
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อแอดมินได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน LINE@ : @Won789 หรือกด >> สมัครสมาชิกได้ << ทันที
